เกษตรกร เป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทยมาเป็นเวลายาวนาน อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่คนไทยส่วนใหญ่ของคนไทยตั้งแต่อดีตเพราะคนไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ผู้ที่ประกอบอาชีพทำนา เรียกว่า ชาวนา อาชีพชาวนาจึงเป็นอาชีพที่สำคัญเพราะเป็นอาชีพที่ผลิตข้าวเลี้ยงคนในประเทศไทย ชาวนาจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติและยุคปัจจุบันมีการพัฒนาคิดค้นนำเทคโลยีหลายๆอย่างมาปรับใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นและใช้ต้นทุนที่น้อยลง
สำหรับเทคโนโลยีการจัดน้ำแบบเปียกสลับแห้ง มีขั้นตอนและวิธีการ ดังนี้
1. ตอนเตรียมดินปลูกข้าว ปรับพื้นที่ให้เรียบสม่ำเสมอ เพื่อลดปัญหาวัชพืช ทำให้น้ำไปได้ทั่วถึงกันหมด เมื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วระบายน้ำออกจากนาให้แห้ง
2. เมื่อข้าวอายุประมาณ 10 วัน ให้พ่นสารกำจัดวัชพืช โดยพิจารณาตามชนิดของวัชพืชที่เกิดขึ้น เมื่อวัชพืชตายได้ 3 วัน ให้เพิ่มระดับน้ำในนา ประมาณ 3 เซนติเมตร ขังนาน 3 วัน
3. ใส่ปุ๋ยครั้งแรก (ข้าวอายุ 20-30 วัน) แล้วรักษาระดับน้ำท่วมผิวดิน ขังน้ำไว้จนกระทั่งน้ำแห้ง หากพบวัชพืชให้รีบกำจัดทิ้งอีกครั้ง
4. ประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อน้ำในนาเริ่มแห้ง ดินเริ่มแตก ให้ระบายน้ำลงนา ระดับ 3-5 เซนติเมตร ขังไว้จนกระทั่งน้ำแห้ง ให้น้ำแบบเปียกสลับแห้ง จนกระทั่งข้าวอายุประมาณ 45-50 วันหากพบวัชพืชต้องรีบกำจัดก่อนใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
5. เมื่อข้าวอยู่ในระยะแตกกอสูงสุด (ข้าวอายุ 45-50 วัน) ให้เพิ่มระดับน้ำในนาสูง 5 เซนติเมตร ขังไว้นาน3 วัน จนข้าวเริ่มกำเนิดช่อดอก (อายุ 50-55 วัน)
6. ใส่ปุ๋ย ครั้งที่ 2 (ข้าวอายุ 50-60 วัน) หลังจากนั้น 7 วัน ให้เพิ่มระดับน้ำ 10 เซนติเมตร รักษาระดับน้ำจนข้าวออกดอกถึงระยะแป้งในเมล็ดเริ่มแข็ง (15-20 วัน หลังข้าวออกดอก)
7. หลังข้าวออกดอกแล้ว 20 วัน ระบายน้ำออกจากแปลงให้แห้ง เพื่อเร่งการสุกแก่
แนวทางการทำนาแบบแกล้งข้าว เป็นการทำให้ดินเปียกบ้าง แห้งบ้าง ดีกว่าการขังน้ำตลอดฤดูกาล เพราะเมื่อข้าวขาดน้ำจะกระตุ้นให้เกิดการแตกรากใหม่มาชอนไชหาน้ำใต้ดิน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ตัวเองแกร่งขึ้น แข็งแรง ไม่ล้มง่าย ดูดซับธาตุอาหารได้ดี แม้ว่าวิธีการนี้จะต้องระวังปัญหาวัชพืชเป็นพิเศษ แต่ก็ช่วยลดการระบาดของแมลงศัตรูข้าว พวกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนห่อใบข้าวได้ดี เพราะวิธีนี้จะทำให้ต้นข้าวไม่อวบน้ำ เพราะช่วงที่ขาดน้ำข้าวจะดูเหมือนแกร็น แมลงพวกนี้จะไม่ชอบ มันชอบต้นข้าวที่อวบน้ำ ก็ไปหาอาหารจากแหล่งอื่นแทน เราก็ลดค่าสารกำจัดแมลง ลดค่าสูบน้ำลงไปได้มาก และยังช่วยให้ฟางย่อยสลายได้ดี ช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากนาข้าวที่ลดลง ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์น้ำจะอยู่ในช่วงปกติ ผมก็ยังใช้วิธีการนี้อยู่ตลอด เพราะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดปัญหาหลายๆ อย่าง และเป็นวิธีธรรมชาติที่ยั่งยืน
จากแนวทางการปลูกข้าวด้วยการใช้เทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าว ด้วยวิธีการ 3 ต้องทำ 3 ต้องลด คือ ต้องปลูกข้าวไม่เกิน 2 ครั้ง ต่อปี ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีในอัตราที่เหมาะสม ต้องทำบัญชีฟาร์ม ลดอัตราเมล็ดพันธุ์ข้าว ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และลดการใช้สารเคมี เพื่อนำไปใช้เพิ่มศักยภาพการผลิต ร่วมกับการทำนาแบบประหยัดน้ำโดยวิธีเปียกสลับแห้ง รวมถึงการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าเป็นสารชีวภัณฑ์เพื่อลดการใช้สารเคมี และการใช้ปุ๋ยสั่งตัด ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.technologychaoban.com/news-slide/article_3828
ผู้เขียนโพสต์ : วริศรา ทรัพย์เกษม
ข้อมูลเพิ่มเติม : สนใจเข้าไปเรียนรู้วิถีการทำนาที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ควบคู่กับการประหยัดน้ำแบบนี้ ติดต่อไปได้ที่ คุณพิชิต เกียรติสมพร เลขที่ 22/2 หมู่ที่ 4 ตำบลสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ (089) 174-2512
Comments