top of page
ค้นหา

ปลูกสับปะรด เปิดเคล็ดลับเพิ่มรสหวานแถมผลใหญ่

  • รูปภาพนักเขียน: Chiangrai Solarcell
    Chiangrai Solarcell
  • 16 ธ.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที


วิธีปลูกสับปะรดด้วยจุก

ควรเลือกผลสับปะรดที่เนื้ออิ่มแน่น จุกสับปะรดต้องเป็นสีเขียว ไม่เหลือง และไม่มีใบสีน้ำตาล ส่วนผลสับปะรดก็ควรมีสีเหลืองทอง ไม่เขียว หรืออ่อนจัดจนเกินไป ที่สำคัญต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่า จุกหรือใบสับปะรดไม่มีแมลงมากัดกิน โดยสังเกตได้จากจุดสีเทาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เกาะติดอยู่ตามใบ หากพบเจอแมลงกินพืชเหล่านี้ก็ต้องหาสับปะรดผลไม้มาเป็นพันธุ์แทน

2. เตรียมจุกสับปะรดสำหรับลงปลูก

เมื่อบิดจุกสับปะรดออกมาได้แล้ว คราวนี้ให้ใช้มีดค่อย ๆ เล็มโคนจุกสับปะรดให้มีลักษณะ เรียบเสมอกัน โดยในระหว่างที่ใช้มีปาดบาง ๆ ก็พยายามสังเกตด้วยว่า เราปาดถึงเนื้อเยื่อ และรากของสับปะรด (ปุ่มกลม ๆ เล็ก ๆ ลักษณะคล้ายตาสับปะรด) แล้วหรือยัง ถ้าปาดจนเริ่มเห็นรากสับปะรดแล้ว ขั้นต่อไปให้ดึงกาบใบสับปะรด โดยเริ่มจากส่วนโคนจุกสับปะรดก่อน ดึงกาบใบออกไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3-4 ชั้น เป็นการเปิดทางให้รากงอกออกมาได้สะดวกขึ้น แต่ก่อนจะนำจุกสับปะรดปักล งกระถาง ควรตากจุกสับปะรดประมาณ 2-3 วัน โดยคว่ำยอดจุกลงสู่พื้นดิน เพื่อฆ่าเชื้อโรค และให้แสงแดดเลียรอยแผลจนแห้ง และรัดตัว ป้องกันจุกสับปะรดเน่าเสีย จากนั้นค่อยนำไป

3. เพาะพันธุ์ขยายราก

ก่อนนำจุกไปปลูกให้นำมาแช่น้ำเพื่อขยายรากสับปะรดก่อน โดยขั้นตอนนี้ให้ใช้โหลพลาสติก หรือแก้วขนาดใหญ่ ใส่น้ำสะอาด แล้วนำจุกสับปะรดไปปักแช่ไว้ประมาณ 3 สัปดาห์ และระหว่างนั้นก็ต้องเปลี่ยนน้ำในขวดโหลทุก ๆ 2-3 วันด้วย ทั้งนี้ควรวางขวดโหลไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติคือ ไม่ร้อนจัด หรือเย็นจัดเกินไป หรืออาจจะวางขวดโหลไว้บนหลังตู้เย็นก็ได้

4. ปลูกลงกระถาง

หลังจากเพาะจนรากสับปะรดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ให้คุณเตรียมกระถางสำหรับปลูกสับปะรดได้เลย โดยเลือกกระถางปลูกต้นไม้ความสูงประมาณ 8 นิ้ว และมีรูระบายน้ำมากพอสมควร จากนั้นรองก้นกระถางด้วยหิน เทให้หนาประมาณ 2 นิ้ว ตามด้วยลงดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ผสมปุ๋ยคอกในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 เสร็จแล้วให้ปักจุกสับปะรดลงไป กลบดินให้แน่น

ทั้งนี้ในระยะแรกให้คุณหมั่นรดน้ำต้นสับปะรดพอประมาณ รักษาระดับความชื้นของดินให้สมดุล ไม่เปียกจัด และไม่แห้งระแหงจนเกินไป ที่สำคัญในช่วง 6-8 สัปดาห์แรก จะเป็นช่วงที่รากสับปะรดกำลังเติบโต และสร้างความแข็งแรงให้ตัวเอง ดังนั้นทางที่ดีอย่าเพิ่งใส่ปุ๋ย หรือรบกวนต้นสับปะรดนะคะ และหลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน รากของต้นสับปะรดจะเริ่มแข็งแรง พร้อมจะงอกหน่อ ซึ่งหากอยากตรวจสอบความสมบูรณ์แข็งแรงของราก ก็ทำได้โดยลองดึงจุกสับปะรดเบา ๆ หากต้นสับปะรดยึดเกาะกับดินในกระถางอย่างเหนียวแน่น ก็หมายความว่ารากมีความแข็งแรงมากพอแล้ว และในระยะนี้คุณจะเริ่มเห็นต้นสับปะรดงอกรากใหม่

การดูแลทั่วไป

1. แสงแดด และอุณหภูมิที่เหมาะสม

วางกระถางต้นสับปะรดไว้ในมุมที่แดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และควรรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ประมาณ 24-30 องศาเซลเซียส

2. การรดน้ำ

ควรหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ อย่างน้อยประมาณ 1 ลิตรต่อต้น ยกเว้นในช่วงฤดูฝน ควรระวังไม่ให้น้ำเยอะเกินไปจนดินแฉะ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ นอกจากนี้ควรระวังเรื่องเชื้อรา

3. การให้ปุ๋ย

เคล็ดลับที่ทำให้สับปะรดหวานฉ่ำก็คือ ควรให้ปุ๋ยฟอสฟอรัส โพรแทสเซียม และไนโตรเจนอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 1 ครั้ง โดยให้ปุ๋ยในปริมาณเล็กน้อยก็พอ ซึ่งจะเลือกให้ปุ๋ยทางกาบใบ ด้วยการโรยปุ๋ยบริเวณกาบใบล่างของต้น หรือให้ปุ๋ยชนิดเหลว ด้วยการฉีดพ่นกาบใบ หรือราดบนหน้าดินรอบ ๆ

4. โรคพืช และศัตรูพืช

ศัตรูพืชที่มักจะมาก่อกวนต้นสับปะรด คือ ไร เชื้อรา และอาการตกสะเก็ด ซึ่งสามารถจำได้โดยการล้างกาบใบด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ส่วนโรคพืชที่พบบ่อยจะเป็นโรครากเน่า รากเกิดเชื้อรา



การออกดอกและผล

เราจะมีโอกาสได้เห็นดอกของสับปะรดในช่วงเดือนที่ 12 ถึงเดือนที่ 14 ในขณะที่ต้นสับปะรดเจริญเติบโตได้ประมาณ 21 นิ้วเป็นต้นไป ตรงกลางของจุกจะผลิดอกสีแดงสดออกมาให้เราได้ชมจนชื่นใจ แต่สำหรับผลผลิตที่เรารอคอย จะเริ่มแตกหน่อประมาณเดือนที่ 20 และจะใช้เวลาเติบโต จนกว่าจะสุกงอมพร้อมรับประทานในเดือนที่ 24-26 เป็นต้นไป

ระยะเวลาที่ควรเก็บเกี่ยว

เมื่อสับปะรดออกผลแล้ว ตามปกติจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน กว่าที่ผลสับปะรดจะเปลี่ยนจากสีเขียว สด แล้วค่อย ๆ เป็นสีเหลืองจากด้านล่าง ไล่ระดับไปจนถึงผลด้านบน และกลายเป็นสีเหลืองทองทั้งลูก บ่งบอกถึงความสุกงอมเต็มที่ แต่ถ้าใครใจร้อน จะรอให้ผลสับปะรดเหลืองแค่กลางลูก หรือเป็นสีเหลืองประมาณ 10% ก็ถือว่าใช้ได้แล้วล่ะค่ะ ทั้งนี้ผลสับปะรดจะมีน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม ลิ้มรสผลไม้ลูกแรกในชีวิตให้อิ่มหนำกันได้เลย

หลังการเก็บเกี่ยว

ต้นสับปะรดหลังการเก็บกี่ยว จะสามารถไว้ตอได้ประมาณ 1-2 ครั้ง โดยให้คุณตัดต้นสับปะรดในระดับเหนือดินประมาณ 20-30 เซนติเมตร จากนั้นใช้พืชคลุมดินป้องกันวัชพืช และเก็บรักษาความชุ่มชื้น ในระหว่างนั้นก็รดน้ำดูแลต่อไปอีกสักประมาณ 2-3 เดือน ต้นสับปะรดจะเริ่มแตกหน่อข้างออกมา และเติบโตจนออกผลได้อีกครั้ง




ขอขอบคุณแหล่งที่มา : วิชาเกษตร และพลังเกษตร และ https://home.kapook.com/view86809.html

 
 
 

Comentários


แบบฟอร์มสมัครรับข่าวสาร

ขอบคุณสำหรับข้อมูล!

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn

©2021 by สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน. Proudly created with Wix.com

bottom of page